รีวิวหนังสือ The Why Cafe : หนังสือสำหรับคนหลงทาง
บางครั้งชีวิตก็ทำให้เราหลงทางไปบ้าง ลองแวะคาเฟ่ข้างทางเพื่อเยียวยาหัวใจ
01. The Why Cafe คาเฟ่สำหรับคนหลงทาง หนังสือที่นำพาเราเดินทางไปยังคาเฟ่ลึกลับแห่งหนึ่ง การปรากฏตัวขึ้นของผู้คนที่นั่น พร้อมคำถามสำคัญ 3 ข้อ — เหตุใดคุณจึงมาที่นี่, คุณกลัวตายไหม และคุณพึงพอใจในชีวิตแล้วหรือยัง
02. จอห์น ชายหนุ่มที่เหน็ดเหนื่อยกับชีวิต ระหว่างการลาพักร้อนเขาตั้งใจออกไปท่องเที่ยวเพื่อชาร์ตแบตให้ตัวเอง รวมถึงหลีกหนีปัญหาวุ่น ๆ แต่โชคไม่ดีเลยที่ทริปของจอห์นเจอปัญหาตั้งแต่เริ่ม เขาหลงทางและน้ำมันรถกำลังจะหมด ระหว่างที่กำลังหาวิธีแก้ จอห์นพบคาเฟ่ลึกลับแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ เขาตัดสินใจแวะเข้าไปคาเฟ่แห่งนั้นโดยไม่รู้เลยว่าเขากำลังจะเผชิญอะไร
03. ระหว่างที่จอห์นใช้เวลาอยู่ในคาเฟ่ลึกลับแห่งนี้ เขาพบกับพนักงานเสิร์ฟ พ่อครัว รวมถึงลูกค้าคนอื่น ๆ ในร้าน ที่แวะเวียนเข้ามาพูดคุย ถกเถียงประเด็นที่น่าสนใจในชีวิต รวมถึงตั้งคำถามที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างเรื่อง เหตุผลของการมีชีวิตอยู่, ความสุขในชีวิต (ที่แท้จริง) และความตาย
“เมื่อใครคนหนึ่งรู้เหตุผลที่ตัวเองมาที่นี่ เท่ากับเขาได้ระบุเป้าหมายของการมีชีวิตแล้ว เขาอาจพบว่าอยากทำสิ่งต่าง ๆ สักสิบอย่าง ยี่สิบอย่าง หรือ หนึ่งร้อยอย่างเพื่อตอบสนองเป้าหมายในชีวิตของตน ในขณะที่ลูกค้าที่พึงพอใจในชีวิตน้อยที่สุด เขาก็ทำอะไรมากมายเช่นกัน แต่เขาทำอะไรมากมายที่ไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายชีวิตของตัวเอง” - หน้า 70 -
04. ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้ คือการอ่านบทสนทนาเกี่ยวกับชีวิต ตัวละครถูกตั้งคำถาม รวมถึงยกเอาเหตุการณ์ในชีวิตมาแชร์กัน ระหว่างทางคนอ่านเองก็ได้ย้อนถามคำถามกับตัวเองไม่ว่าจะเป็น ความสุขที่แท้จริงในชีวิตเราคืออะไร (ที่ไม่ใช่เพราะสังคม หรือ คนอื่นบอกว่านี่คือความสุข) , เรากำลังติดกับดักความสำเร็จตามสื่อโฆษณาบอกให้เราต้องมีหรือไม่? , เราวางแผนทำสิ่งต่าง ๆ มากมายแต่ไม่เคยลงมือทำหรือเปล่า? เรากำลังหลงทางไปกับสิ่งที่ไม่ได้ทำให้เราบรรลุเป้าหมายของเราหรือเปล่า?
“ฉันตระหนักว่าในชีวิตฉัน คลื่นที่พัดเข้าหาฝั่งเกิดจาก ผู้คน กิจกรรม และสิ่งต่าง ๆ ที่พยายามจะดึงความสนใจ พลังงาน และ เวลาของฉันไป แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเป้าหมายชีวิตของฉันเลย ยิ่งฉันเสียเวลากับพลังงานไปกับคลื่นที่พัดเข้าหาฝั่งมากเท่าไหร่ ฉันก็จะยิ่งเหลือเวลาและพลังงานสำหรับคลื่นที่พัดออกจากฝั่งน้อยลงเท่านั้น” - หน้า 82 -
05. อีกประเด็นที่มิ้นชอบในหนังสือเล่มนี้ คือเรื่องของไมค์ — ชายผู้ใช้ชีวิตอย่างหนักเรียนหนัก ทำงานหนัก ซ้อมกีฬาอย่างหนัก วันหนึ่งไมค์มีโอกาสออกทริปในช่วงฤดูร้อน ทริปนั้นเปลี่ยนความคิดของไมค์ต่อปัญหาต่าง ๆ เขาพบว่าตัวเขาเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามาก (นั่นหมายถึง ธรรมชาติ) สิ่งที่กำลังทุกข์ และเจ็บปวด ดูเหมือนจะหมดความสำคัญไปเมื่อรำลึกว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่แค่ไหน ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจทำอะไร จะผิดหรือถูกธรรมชาติต่างหากที่จะยังคงอยู่ตลอดไปไม่ใช่เขา . . อ่านบทนี้แล้วรู้สึกว่าเราตัวเล็กนิดเดียวเองเมื่อเทียบกับโลกใบนี้ แถมอายุขัยก็แสนสั้น ลงมือทำในสิ่งที่อยากทำเพื่อที่จะไม่มานั่งเสียดาย และเลิกคร่ำครวญกับปัญหาและความทุกข์เสียที
จำได้ว่าผมกำลังจ้องมองภาพเบื้องหน้าอยู่ ทันใดนั้นผมก็ตระหนักได้ว่า ในช่วงสองปีครึ่งที่ผ่านมา ขณะที่ผมวางแผนทุกวินาทีของชีวิต ภาพนี้ปรากฏให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน สวรรค์อยู่ห่างออกมาแค่ระยะนั่งเครื่องบินไม่กี่ชั่วโมง แต่ผมกลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีอยู่ พระอาทิตย์ตกตรงนั้น และคลื่นที่กระทบฝั่งตรงนั้น มันอยู่ของมันมาเป็นเวลาหลายล้านปีแล้ว ไม่ก็หลายพันล้านปี — หน้า 158
สรุปสั้น ๆ สำหรับหนังสือเล่มนี้:
เป็นหนังสือที่อ่านเพลิน ๆ ให้ข้อคิด สร้างแรงบันดาลใจให้คนอ่านตามหาเป้าหมายในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตามหาว่าอะไรคือความสุขในแบบของเรา การเลือกฟังเสียงตัวเอง ใช้ชีวิตตามเส้นทางที่เราอยากเดิน การไม่ยึดติดกับความสำเร็จที่สื่อพยายามกรอกหูเราอยู่ทุกวัน แต่สร้างคำจำกัดความของความสำเร็จในวิถีของเราเอง
“คุณไม่อาจกลัวการไม่มีโอกาสในการทำสิ่งสิ่งหนึ่ง ถ้าคุณกำลังทำ หรือ ทำมันไปแล้ว . .” - หน้า 167 -
เกร็ดหนังสือที่น่าสนใจ:
นักเขียน:
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย John Strelecky นักเขียนและนักสร้างแรงบันดาลใจวัย 51 ปี ผลงานเล่มแรกของเขาคือ The Why Cafe หรือชื่อ The Cafe on the Edge of the World (ผลงานปี 2002) ได้รับความนิยมแปลไป 16 ภาษา วางขายไปกว่า 40 ประเทศ แรงบันดาลใจในงานเขียนของเขาเกิดจากการเดินทางแบ็กแพ็กทั่วโลกกับภรรยา ช่วงระยะเวลา 9 เดือนของการเดินทางทำให้เขาค้นพบแรงบันดาลใจ ข้อคิดในชีวิตมากมาย
ติดตามผลงานผู้เขียนได้ทาง www.johnstrelecky.com
คนออกแบบปกและภาพประกอบ:
แน่นอนว่าความโดดเด่นของหนังสือเล่มนี้ต้องยกให้หน้าปกของหนังสือเลย ซึ่งผู้ออกแบบคือคุณมุก-นภกร มีเจตนี และ คุณอาย-อภิสรา มะลิวัลย์ สองกราฟิกดีไซเนอร์ของสำนักพิมพ์ Be (ing) นั่นเอง ในหน้าปกมีรายละเอียดยิบย่อยอยู่เต็มไปหมด และถ้าคุณเป็นคนช่างสังเกต คุณจะพบว่ามีเจ้าเต่าในเรื่องแอบซ่อนอยู่บนปกด้วยล่ะ
Book: The Why Cafe
Writer: John Strelecky
Translator: ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ
Publisher: Be (ing)
Page: 175
Price: 229 Thb
ติดตามพวกเราได้ทาง:
IG: Bookish.1994
Page: เรื่องเล่าร้านหนังสือ
Line official (@bookish1994)
และ Line My Shop